วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

หมอ กฤษฏ์ คอนเฟิร์ม


วันนี้เราจะมาเจอะลึกหมอดูชื่อดัง กัน กับศาสตร์ที่เขาใช้ในการดูดวงกัน 
อยากรู้ต้องติดตาม จะเจอะลึกให้ถึงกึ๋นเลยล่ะ ท่าน ........................ 

วิชาที่หมอกฤษใช้นั้นที่จริงแล้วเป็นวิชาเลข 7 ตัวที่หาที่ศึกษากันได้ยากมาก บ้างก็ว่า 
เป็นเลข 7 ตัวฉบับอิสาน ของหมอทอง คิ้วน้อย (คนอุบลฯ) เลข 7 ตัวที่ใช้นั้นจะสามารถ 
บอกรายละเอียดได้เป็นวันๆเลยทีเดียว ซึ่งจะสามารถบอกได้เลยว่า วันที่นี้ วันนั้น 
เวลาเท่าไหร่ จะเกิดอะไรขึ้น เป็นวิชาที่ลึกลับมากๆ วิชาหนึ่งซื่อความลับอีกอย่างของ 
วิชานี้คือ ให้หวยแม่นนั่นเอง ... 

การทำนายนั้น ไม่ต้องบอกวันเดือนปีเกิดเวลาเกิดอะไรทั้งสิ้น เรียกได้ว่า เอาซะ 
คน งง งวยกันไปตามๆกันเพราะว่าจู่ๆก็รู้ปัญหา รู้ได้เลย ถือได้ว่าวิชา 7 ตัวบริเฉทดารา 
นั้นเป็นสุดยอดไม้ตายของวิชาเลข 7 ตัว และหาเรียนได้ยากมาก เพราะหมอดูส่วนใหญ่ 
มักจะไม่เปิดเผยเคร็ดนี้ได้ นอกจากลักจด ลักจำเอาเอง ที่จริงแล้วก็มีคนบอกกันว่า 
วิชาที่ว่านั้น นำเอามารวมกับวิชา 10 ลัคนา ซึ่งก็เป็นวิชาที่ครูบาอารจารย์ท่านจะบอก 
ให้ลูกศิษย์อย่าเอาไปบอกใครนอกจากว่าไปสอนคนอื่น แต่การจะสอนคนอื่นได้นั้น 
ต้องผ่านการดูดวงมาอย่างน้อย 5000 ดวงเสียก่อน อีก วิชาที่กล่าวว่า เขาเรียกกันหลาย 
ชื่อ ได้แก่ 7 ตัวบริเฉทดารา บ้างก็ว่า พินิจนาที บ้างก็ว่า สัตตะดารกะ จนไม่รู้สุดท้ายใช้ 
ชื่ออะไรกันแน่ 

ข่าววงในเล่าว่า หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม แต่ก่อนนั้นใช้ชื่อฉายาว่า ปริศนา ใช้ในเว็บ 
โหราศาสตร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง บอกเลยก็ได้ว่าเว็บพยากรณ์.คอม คุณกฤษณ์ คอนเฟิร์ม 
เป็น 1 ในทีมงานบุญตั้งไข่ที่เคยทำรายการออก cable TV แต่ปัจจุบันก็น่าจะเลิก 
รายการไปแล้วเช่นกัน 
http://www.oknation.net/blog/modonut/2007/10/01/entry-2 

ตอนนี้ปี 2551 หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม มาอยู่ในช่องเคเบิ้ลทีวี NSS6 ช่องเดียวกับ 
ASTV แล้ว ไม่รู้ว่าช่องเก่าเลิกไปหรือว่ายังไงกันแน่เหมือนกัน 

ที่จริงวิชาเลข7ตัวบริเฉทดารานี้ที่ไปที่มาคือ หลวงปู่เจต ที่ราชบุรีได้ถ่ายทอดให้กับ 
คุณปริศนา (ซึ่งทีมงานก็รู้แล้วว่า คุณปริศนากับหมอกฤษณ์ ไม่ใช่คนๆเดียวกัน) 
แต่เป็น ลูกศิษย์ของคุณปริศนา 

คำจำกัดความ เกี่ยวกับวิชานั้น 

- จะใช้ โหราศาสตร์ระบบพินิจนาที จะเป็นการหาลัคนา จากเลข 7ตัวประกอบกับการ 
อ่านชะตา 

- บริเฉท 7 ดารา หรือดวงบริเฉท เป็นการจับยามในแบบพินิจนาที 
ตรงนี้ อ.ปริศนา ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่ โดยตั้งดวงให้ดู 8 ดวงแล้วบอกว่าเอาไป 
ศึกษาดู วิชานี้สามารถบอกเลขหวยลอตโต้ เสี่ยงโชคได้ บางครั้งหลวงปู่ก็เคยใช้วิชานี้ 
สงเคราะห์ญาติโยม 

- และที่สุดยอด การปรับแก้ชัยภูมิ ซึ่งแนวทางวิชาจะไปคล้ายกับฮวงจุ้ยดาว 9 ยุค 
ซึ่งหลวงปู่ได้ฝากบอกไว้ก่อนเสียชีวิตไม่นาน ว่าฮวงจุ้ยจีนทำได้ บริเฉท ก็ทำได้ไม่ 
แพ้กัน 

- ที่สำคัญต้องได้นาทีเกิดจริงๆ ตัวช่วยที่สำคัญคือ รูปร่าง ส่วนสูงเป็นซม.เลย ซึ่งไม่ได้ 
อาศัยดาวเจ้านวางค์/ตรียางศ์เช่นโหราศาสตร์ระบบ 10 ลัคนา เป็นสิ่งที่ค้นพบในรุ่น 
ของ อ.ปริศนา เมื่อแรกค้นพบนั้นได้ไปเรียนให้หลวงปู่ทราบและรับรองวิชา 
ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมสำหรับศิษย์ในสายยนี้เมื่อพบหลักวิชาอันใด ต้องนำไปให้ผู้ 
ถ่ายทอดรับรองก่อนที่จะนำไปเปิดเผยใช้เป็นหลักวิชาต่อไป 


ทีมงานได้ประวัติมากคราวๆ ซึ่งจะจริงแท้ยังไงก็ต้องอ่านก่อน 

ศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์ ชื่อนี้คงเป็นที่คุ้นเคยอย่างดีสำหรับคนชอบดูดวง ด้วยลีลาการ 
ทำนายที่ ดุเด็ด เฉียบขาด ในฉายา *หมอ กฤษฏ์ คอนเฟิร์ม* ไม่จำ เป็นที่ผู้มารับคำ 
ทำนาย จะต้องมาตีความให้เสียเวลา การทำนายแบบตรงเป้านั้น บ่อยครั้งทำให้หลายวง 
การต้องสะเทือน ทั้งเรื่องการทำนายที่ผ่านมาอาทิ 

ปี 2549 ปลายปีได้ทาย คุณ หน่อย เคน ธีรเดช จะไก้แต่งงานมีข่าวดี ในเดือน ตุลาคม 
ถึง พฤศจิกายน 2551 ซึ่งตรงตามคำทำนาย และที่ปรากฏชัดคือ กรณีท้องลมของดารา 
สาว ชื่อ แนน อมิตดดา ซึ่งหมอดูหลายท่านได้ทำนายไปต่างๆนาๆว่าท้องจริงๆแต่ หมอดู 
เด็กน้อยคนนี้ได้ทายสวนกระแสเลยว่า เป็นเรื่องโกหก ซึ่งปรากฏแล้วว่า ถูกต้อง ซึ่งได้ 
ทำนายไว้ล่วงหน้าถึง 5 เดือน ด้วยกัน คำทำนายที่ถูกต้อง ยังมีอีกมากมายแต่หน้า 

กระดาษจะไม่พอ จากคำทำนายที่ไม่อ้อมค้อมแบบสองแง่สามง่าม ทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งที่ 
ทำนายนั้นต้องเกิดขึ้นจริงๆกับคุณอย่างแน่นอน ***คอนเฟิร์ม *** 

ย้อนหลังกลับไปในวัยเด็ก ในวัยเช่นนั้น หากไปถามเด็กทั่วไปว่า 

“โตขึ้นมาอยากเป็นอะไร ” 

คงได้คำตอบหลากหลาย หมอ ตำรวจ ทหาร ครู และอีกหลากอาชีพ แต่กับเด็กชาย 
ศุกฤษฎ์ในวัยแปดขวบ คงตอบไม่ได้ว่าเขาอยากเป็นอะไร หากแต่สิ่งที่เขาสนใจที่สุด 
นั้น กลับเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนยังไม่คิดว่าจะเรียนได้ นั่นคือโหราศาสตร์ศาสตร์แห่ง 
การทำนายทายทัก แทบ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กในวัยเท่านั้น จะโหยหาเรียนรู้ศาสตร์ แห่ง 
ความลับของจักรวาล เขาเฝ้าร้องขอให้ผู้ใหญ่พาเขาไปยังสถานที่ ๆสอนวิชาโหราศาสตร์ 
รวมถึงขอเงินไปซื้อหนังสือโหราศาสตร์ มาอ่านมาศึกษาอย่างใจจดใจจ่อ ในเวลานั้น 

ผู้ใหญ่ในบ้านต่างคิดว่า เด็กคนนี้แปลกเสียจริง แต่ก็ไม่ขัดใจคิดว่าอยากเรียนก็เรียน 
ไป อีกพักก็เบื่อไปเอง 

แต่ยิ่งนานวันก็หาได้เป็นเช่นที่คิด นับวันเด็กน้อยศุกฤษฎ์ก็ยิ่งศึกษาลึกเข้าไปใน 
โหราศาสตร์หลายแขนงที่เขาสนใจ เมื่อเติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่น หลายสำนักสอนวิชา 
โหราศาสตร์ก็ปรากฏชื่อของเขาในฐานะศิษย์ ถึงแม้จะไม่ทิ้งการศึกษาในสถาบัน 

แต่เขากลับมองเห็นว่า โหราศาสตร์สำคัญต่อความต้องการมากกว่า เคยมีใครบางคน 
ถามเขาว่า ทำไมจึงต้องการเป็นคนที่เก่งทางโหราศาสตร์ให้ได้ หรือว่าในอนาคตจะยึด 
อาชีพหมอดู เพราะเมื่อมองไปที่ฐานะทางบ้านก็อยู่ในขั้นพอมีพอกิน ในอนาคตคงไม่ 
ต้องเดือดร้อนเรื่องหางานทำอยู่แล้ว คำตอบจากเขาคือ เขารักในวิชาพยากรณ์ต่างๆ 
มาก เขาใฝ่ฝันอย่างแรงกล้า ที่จะได้ล่วงรู้ความเป็นไปในชีวิตมนุษย์ รวมทั้งชีวิตของ 
ตัวเอง จากวันนั้นจนบัดนี้ สิ่งที่ยังคงเดิมคือเขายังไม่เบื่อหน่ายที่จะค้นคว้าหาความรู้ 
เพิ่มเติม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เขากลายมาเป็นนักพยากรณ์ที่มีผู้มาขอคำทำนายมากที่ 
สุดคนหนึ่ง จากคำบอกเล่าปากต่อปาก จนทุกวันนี้เขามีอาชีพนักพยากรณ์ไปโดย 
ปริยาย 

เราถามถึงวิชาโหราศาสตร์ที่เขาใช้ในการทำนาย เขาเล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่เริ่มศึกษา 
มาจนล่วงถึงสิบปี แต่เขาก็ยังไม่พบจุดที่ทำให้ตนเองพอใจ จนวันหนึ่งเขาได้พบกับพระ 
ภิกษุผู้ชราภาพ ผู้ซึ่งประสิทธิ์ประสาธน์วิชาที่ส่งให้เขามาจนถึงจุดนี้ เขาย้อนความทรงจำ 
กลับไปยังวันที่เขาต้องหลีกลี้ปัญหาชีวิต ไปพึ่งพิงความสงบภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ที่วัด 
แห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ที่นี่เองเขาได้ประสบกับความประหลาดใจ ต่อคำทำนายทาย 
ทักที่แม่นยำดั่งตาเห็น จากผู้ที่เขาเรียกต่อมาจนชินปากว่ า “ หลวงปู่” ไม่ว่าจะมีใครมา 
หาหลวงปู่จะรู้ล่วงหน้า รู้แม้กระทั่งว่าจะมีใครมา มาเวลาไหน มากันกี่คน เมื่อมาแล้ว 
หลวงปู่บอกได้ด้วยว่าแต่ละคนเดือดร้อนเรื่องอะไร บางครั้งคนที่มายังไม่ทันเอ่ยปาก 
ถามด้วยซ้ำ หลวงปู่มิได้ล่วงรู้ด้วยอำนาจญาณสมาบัติอย่างที่ชาว บ้านมักเรียกว่า 
“ทางใน” แต่ท่านล่วงรู้ด้วยวิชาโหราศาสตร์ ที่สุกฤษฎ์ไม่เคยร่ำเรียนมาก่อน นั่นคือ 
วิชาโหราเลขศาสตร์พินิจนาที กับวิชาบริเฉทเจ็ดดารา วิชาทั้งสองนี้รวมถึงวิชาสิบลัคนา 
เป็นสิ่งที่หลวงปู่แตกฉานเจนจบ เรียกได้ว่าเป็นเอกทัคคะ ทางโหราศาสตร์ผู้หนึ่ง 
จะว่าเป็นความบังเอิญหรือพรหมลิขิตก็สุดแท้แต่ หลวงปู่บอกกับสุกฤษฎ์ว่าท่านไม่เคย 
สอนใครมาก่อน จะถ่ายทอดวิชาอันล้ำค่านี้ให้ สุกฤษฎ์คงเป็นศิษย์คนแรกและสุดท้าย 
เพราะหลวงปู่มีอายุ 96 ปีแล้ว ความเป็นมาของวิชาโหราเลขศาสตร์พินิจนาทีนี้หลวงปู่ 
เล่าว่า ถ่ายทอดนับเนื่องมาแต่สมภารองค์แรกๆ ของวัดสัตตนารถปริวัตร ซึ่งเป็นวัด 
หลวงที่สำคัญแห่งหนึ่งในราชบุรี สมภารองค์ที่ปรากฏชื่อเลื่องลือทางด้านโหราศาสตร์คือ 
พระครูวินัธรรม (อินทร์ ปัญญาทีโป) หรือที่บรรดานักโหรา ศาสตร์ขนานนามท่าน 
ว่า “พระครูอินทร์เทวดา” พระครูอินทร์องค์นี้นี่เองที่ถ่ายทอดวิชาแก่หลวงปู่อาจารย์ของ 
สุกฤษฎ์ 

อันวิชาโหราเลขศาสตร์นี้ เป็นวิชาที่ใช้ยามอัฐกาลซอยย่อยออกเป็นนาที หรือในกรณี 
จำเป็นอาจซอยละเอียดลงในระดับวินาที แล้วกำหนดจุดลัคนาลงบนผังไตรภาคของเลข 
แทนสัตตดารา ที่คนทั่วๆไปเรียกว่าเลข 7 ตัวแต่โดยความเป็นจริงแล้วเลขแทนดาวมี 
7 เลข แต่จำนวนตัวเลขมีถึง 63 ตำแหน่ง ชี้วิถีดำเนินชีวิต 21 เรือนชาตา สัมพันธ์ถึง 
เรือนแฝงกระทบอีก 14 เรือนและผังดาราฤทธิ์อีก 7 ตำแหน่ง ถึงแม้ดาวต่างๆบนผัง 
จะอยู่ในสภาพสถิตสถาน คือคงที่ แต่วิถีดำเนินชีวิตกำหนดให้เคลื่อนไปตามตำแหน่ง 
บนผังดาว เริ่มจากจุติสถานไปจนถึงจุดอายุจร สามารถบอกเหตุการณ์ได้ทุกกรณีใน 
ชีวิตมนุษย์ บอกได้แม้ กระทั่งรูปพรรณบุคคลสูงต่ำ บอกลักษณะรูปหน้า ตา ฟัน จุดเด่น 
จุดด้อยบนกายตำหนิไฝปานบนร่างกายก็ไม่พ้นให้ล่วงรู้ได้ ยิ่งวิชาบริเฉทเจ็ดดารา 
แล้ว ความมหัศจรรย์เหนือคำบรรยาย บอกเหตุการณ์บุคคลได้โดยไม่ต้องบอกวันเดือน 
และปีเกิดของเจ้าชะ ตา ปัจจุบันนอกจากอาจารย์ศุกฤษฎ์แล้ว วิชานี้ยังไม่แพร่ออกไป 
ในวงกว้าง เนื่องจากอาจารย์ศุกฤษฎ์รับคำมั่นกับหลวงปู่ไว้ว่าจะอนุรักษ์วิชานี้ไว้ให้โดย 
เฉพาะกับคนดีๆ ถึงวันนี้หลวงปู่จะได้จากไปแล้ว บรรดาศิษย์ที่ได้รับถ่ายทอดวิชานี้ 
จาก อ. ศุกฤษฏ์ ก็จะเทิดทูลท่านดัง ปรมาจารย์ วิชานี้ สืบไป 

ผมได้ไปสืบทราบว่ามาว่าที่เราเรียกกันว่า "7 ตัวบริเฉทดารา" นั้นที่จริงเรียกผิด 
เราต้องเรียกว่า "บริเฉทเจ็ดดารา" ครับ 

โดยวิชาต่างๆที่เราได้นำเสนอไป จัดแบ่งได้เป็น 3 หมวด ดังนี้ 

1. [ บริเฉทเจ็ดดารา ] -> บริเฉท(กลุ่ม หรือเหล่า) + ดารา(ดวงดาว) 
เป็นวิชาที่ว่าด้วยการพยากรณ์ ที่สามารถพยากรณ์ได้โดยไม่ต้องใช้วดป.เกิด 
ของผู้ที่จะมารับคำพยากรณ์เลย... 

2. [ พินิจนาที ] -> พินิจ + นาที 
เป็นวิชาที่ว่าด้วยการคำนวน ที่อ้างอิงเวลาในระดับ "นาที" แต่ถ้าซอยยามย่อยลงไปอีก 
หรือต้องการคำนวนระดับลึกเป็น "วินาที" ก็สามารถใช้ได้ โดยเรียกว่า "มหาพินิจนาที"
 การที่จะใช้คำนวนเด็กแฝดที่เกิดต่างกัน ในหลักนาที หรือวินาที ก็ใช้หลักตรงนี้แหละ 
ในการพยากรณ์ การคำนวนเวลาตายเป็นนาทีได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังบอกสาเหตุการตายได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ได้สร้างความลือลั่นมาแล้ว ใน
กระทู้หมอทองคิ้วน้อย ลองไปหาดู (ที่พยากรณ์น่ะเป็นศิษย์นะครับ) นี่แค่ศิษย์ของ
อาจารย์ท่านนี้ ยังพยากรณ์ได้ขนาดนี้ แล้วอาจารย์เองก็คงไม่ธรรมดา เอาเป็นว่า
รายละเอียดไปนั่งอ่าน นั่งหาเอา ผมไม่ขอเอ่ยอีก เพราะเดี๋ยวจะหาว่าเข้าข้างกัน
แต่อยากจะให้ใช้สติปัญญาพิจารณาเอง... 

3. [ นิเวศน์วิรุฬหการณ์ ] -> นิเวศน์ (สภาพแวดล้อม) + วิรุฬ (ฝน , ความเจริญ 
, ความชุ่มชื้น) + (เค)หะ + การณ์ เป็นวิชาที่ว่าด้วยหลักชัยภูมิไทย ,ทำเล คล้ายๆ 
หลักฮวงจุ้ยของจีนน่ะครับ (แต่นี่คือศาสตร์ของไทย) โดยการวางผังบ้าน แล้วแทนที่
ตำแหน่งต่างๆ ด้วยเลขและดวงดาว ท่านอาจารย์เล่าว่า บางทำเล หรือบางบ้าน แค่
เดินผ่าน สามารถรู้ได้เลยว่าว่าบ้านใครป่วย ใครตาย เลิกกันหรือไม่ อยู่ดีมั๊ย อยู่แล้
วจะเป็นอย่างไร ฯลฯ 

* บริเฉทนั้นสามารถไม่ใช้วดป ของผู้ทำนายก็จริง แต่เป็นลักษณะกว้างกว่า 
ถ้าได้ วดปเกิด และ เวลาเกิดของ เจ้าชะตา ก็สามารถพยากรณ์ได้ตั้งแต่เกิด จนตายเลยครับ.. 

นี่คือบทสัมพาสหมอดูชื่อดังกฤษณ์ คอนเฟิร์ม 
คัดลอกจากหนังสือพิมพ์ สยามดารา เมื่อเร็วๆนี้

Attachment: