วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

พลังรักษาโรคในตัวเอง

โรคภัยไข้เจ็บ ถ้าจะพูดรวมๆก็ เกิดขึ้นจากกรรม คนเราจะมีพลังรักษาตัวอยู่ทุกคน ถ้าคนนั้นเป็นคนดี พยายามตั้งจิตให้สงบ นั่งสมาธิบ่อยๆ พอรู้ตัวว่าจิตใจสงบดีแล้ว ก็นึงภาพการรักษาโรคต่างๆ เช่นมีการเจ็บปวดแขนภายใน ก็ให้นำจิตไปไว้ส่วนที่ปวดแล้วให้นึงถึง เทพพรหม หรือ พระอริยเจ้า พระองค์ใดก็ได้ที่เรานับถืออย่างที่สุด แล้วก็ ขอบารมี เช่น นับถือสมเด็จพระพุฒจารย์โต พอจิตนิ่งสงบ สำรวดร่างกายว่าส่วนไหนจะทำการรักษา ให้เอ่ยขอบารมี แห่งองค์พระสมาสัมพุทธเจ้า และองค์สมเด็จพระพุฒจารย์โต ขอบารมีแห่งพระองค์ ได้โปรดมาช่วยรักษา อาการเจ็บไข้ได้ปวด ส่วนไหนก็ว่าไป ...ขอให้ความเจ็บปวดหรือโรคภัยต่างๆได้หาย สลายไป ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระสัมาสัมพุทธเจ้า และบารมีแห่งองค์สมเด็จพระพุฒจารย์โตด้วยเทอญ ...... ทีนี้ก็กำหนดจิตที่สงบนั้น ให้ไปรวมอยู่ที่ส่วนเจ็บปวด หรือส่วนที่จะรักษา ให้นึกว่ามีแสง เช่น แสงสีขาว ไปรวมอยู่ที่จิตตัวเราเอง และคิดไปเองว่า มี 2 พระองค์กำลังรักษาอยู่ ให้ทำแบบนี้บ่อยๆ แม้นแต่โรคร้ายต่างๆก็รักษาได้ ( เช่นมีแผลในกายคนโรคร้ายต่างๆ ภายในแผลไม่แห้ง ให้เราคิดแบบที่ทำ กำหนดไปว่ารักษาจนแผลแห้ง ทำให้เกิดกำลังใจ คิดไปว่ารักษาได้ หาย เกิดความปิติรู้ว่าตัวเองหาย ไม่เป็นไร แต่ต้องค่อยๆรักษาไปเรื่อยๆ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ ใจสำครัญที่สุด

ทีนี้ก็มาพูดถึงการเสริมพลังการรักษา ก็ต้องหา ธาตุกายสิทธิ์ ที่มีพลังให้เข้ากับตัวเรา คำว่าเข้ากับตัวเราหมายความว่า ผู้เฝ้า หรือเทพ กายสิทธิ์ นั้นๆจะเป็นผู้ดูแลเรา การนำมาซึ่งธาตุกายสิทธิ์ ยกตัวอย่าง เหมือนคนเราเวลาเจอเพื่อนใหม่ ยังไงก็ไม่คุ้นเคยเหมือนผู้ที่ใกล้ชิดมานาน อันนี้ก็ต้องไปพูถึงเรืองของชาติแต่ละชาติ บุญที่ทำกันร่วมมาอีก ก็แปลว่า การที่ได้ธาตุกายสิทธิ์ มา พอเพ่งได้มา บางคนก็ได้เพราะการทำบุญร่วมกันมา บางคนได้เพราะฟรุ๊ก อีกหน่อยธาตุกายสิทธิ์ก็หายไปหรือไปอยู่กันคนอื่นจนได้ เช่น เวลาเราได้ธาตุกายสิทธิ์มา ควรหาอย่างน้อยพวงมาลัยไปถวาย แล้วเวลาทำบุญต่างๆก็นำท่านติดตัวไปด้วย เวลาทำบุญก็นึกถึง ธาตุกายสิทธิ์ ว่าร่วมทำบุญไปกับเราด้วยทุกครั้ง ที่พูดมาคือ พลัง พลังที่อาจ หรือ เผื่อได้ จะมีการส่งผลถึงการกระทำต่างๆ เช่น ความเจริญ ความสำเร็จ รวมไปถึงการรักษาโรคในตัวเอง ป้องกันกรรมที่มากระทำต่างๆนาๆ เสมือนว่า ธาตุกายสิทธิ์นั้นเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งผู้ดูแลตัวเรา แต่อย่าลืม ก่อนจะนึกถึงธาตุกายสิทธิ์ ให้นึกถึงพระพุทธเจ้า ก่อนทุกครั้งไป พอถึงเวลา ที่เราสามารถนำพลัง จากธาตุกายสิทธิ์นั้นๆมาร่วมใช้ในการรักษาโรค ได้ทั้งตัวเอง และผู้อื่นอีกด้วย อย่าลืมการทำบุญทุกครั้ง เราต้องแผ่ถวายให้กับองค์พระสัมาสัมพุทธเจ้าก่อน และจึงแผ่ให้ พระอริยะเจ้าที่นับถือ แล้วก็เทพพรหม เทวดา เจ้าที่ ผีบ้านผีเรือน เจ้ากรรมนายเวร

ลองเอาไปฝึกดูครับ ธาตุกายสิทธิ์ที่อยากจะแนะนำ คือ เหล็กไหลพระสีวลี มี 2 แบบ ชนิดแม่เหล็กดูดติดกับไม่ติด สีเหมือนกัน ชนิดเดียวกัน พลังเหมือนกันทุกด้าน นำไปอธิฐาณจิตสมาธิ ได้ดีสุดยอด จากที่เคยได้สัมผัสธาตุกายสิทธิ์มา บางคนคงคิดว่าเป็นแค่หินสีแดงๆ แต่คุณๆลองเอาไปให้ ครูบาอาจารย์เก่งๆ นั่งทางในดู แล้วจะได้คำตาบมาว่า ดีชั้นยอดจริงๆ ( ส่วนมากเหล็กไหลธาตุพระสีวลีพอถูกน้ำหรือเอาไปแช่น้ำแล้วดู สีจะเปลี่ยนเป็นสีเหล็กทันที ออกสีเหล็กฟ้าๆ )

ไม่มีความคิดเห็น: