วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

พระอาจารย์.ชาญ ชาโน

บทสวดก่อนนั่งแก้กรรมฐานคลี่คลายฯ แบบง่ายๆไม่อ้อมค้อม
ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วนึกถึงหลวงปู่เงิน วัดบางคลาน ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
,หลวงปู่หรุ่น เก้ายอด ,หลวงปู่เคลือบ วัดหนองกระดี่ และหลวงพ่อชาญ ชาโน และขอนั่งสมาธิคลี่คลายกรรมและถวายกรรมเวร ขอให้ครูบาอาจารย์จงคุ้มครอง แล้วนั่งเลย ตั้งใจนั่งสูดลมหายใจยาวๆ พอง-ยุบๆๆๆๆๆ ไปเลื่อยๆ จับลมหายใจแม่นๆ รับรองได้ผลชัวร์


พระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ กับคณะพระสงฆ์ 340 รูปที่สมัครไปจำพรรษาที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ผู้อ่าน : 469 , 15:38:45 น.
พิมพ์หน้านี้

พระอาจารย์.ชาญ ชาโน จากสำนักสงฆ์ป่ากลางบุญ ทำพิธีสำรวจกรรม และตัดเคราห์ ให้กับบรรดาพระสงฆ์ที่สมัคร ไปจำพรรษา กับวัดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในโครงการพระสงฆ์นำชัยดับไฟใต้ ตามดำริของ
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี น่าภมิใจที่ปีนี้
มีพระสงฆ์สมัครสูงถึง 340 รูป ที่วัดดอนเมือง







และชวนชมคริปพิธีตัดกรรม ฟัง บทสวดพาหุง เจริญ สติ เพื่อเป็นมงคลแห่งชีวิต

เป็นไงบ้าง พิธีตัดกรรม กุศโลบายของ พระอาจารย์ชาญ ชาโน ผู้ที่เดินทางตามรอยพระพุทธเจ้า

ศึกษา การทำสมาธิ นานกว่า 40 ปี จนเจอ ระหัสผ่าน ของการทำสมาธิ คล้ายกับช่วงที่พระพุทธเจ้า

นั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์

ในเบื้องต้นต้องทนกับ ทุกข์ การปวด เมื้อย เห็บ ชา จนร่างกายทนไม่ไหว คนนั่งสมาธิทุกคนจะต้องเจอ

ตรงนี้อาจารย์ว่าเป็นกรรม ใครจะติด นาน เท่าไร ก็แล้วแต่บุคคล ผมตอนแรกไม่เชื่อ คิดว่าจะลองดี

ก็ขอนั่งกับเขาบ้าง เพราะตรงนี้คาใจตั้งแต่บวชเป็นสามเณร ที่วัดป่าแดนสงบ จ.นครราชสีมา นั่งอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ยุบหนอ พองหนอ พุทโธ ก็แล้ว ไม่เข้าใจ เวลานั่งเมื่อย เป็นเหน็บก็จะหมด ทนไม่ได้

แต่ อ.ชาญ ช่วยแนะให้ หายใจเข้า เต็มปอด ออก หมดปลอด เท่านี้ แรกๆก็นั่งหลับตาขำ ประมาณ 30 นาที

แต่พอขาชาแล้ว มันเจ็บ ปวด มาก ๆ ตอนนี้ร่างกายจะกระดุ๊ก กระดิ๊ก อ.ชาญ บอกว่าเริ่มแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะธรรมะก็คือธรรมชาติ หายใจแรงๆ ออกแรงๆ ยิ่งหายใจเร็วก็รู้สึกว่า เลือดเริ่มขยับ

ผมก็เร็งหายใจเข้าออก แรง เร็วขึ้น ความรู้สึกว่าเลือดมันเริ่มแล่น ตอนนี้มันเหมือนเราตกน้ำ จะจมน้ำให้ได้

ต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ ทุกวิถีทาง มันทรมารมากๆ แต่ไม่น่าเชื่อสมาธิตรงนี้ผมมีประมาณ 10 นาที

ขาที่แข็ง ชา ปวด กลับหายเป็นปกติ ร่างกายรู้สึกโล่ง ไม่นึกอะไร ไม่เห็นอะไร ตัวเองรู้สึกถูกปลดปล่อย

ผมประมาณการว่า ในเมื่องร่างกายเร่งให้หายใจเร็ว เพิ่มปริมาณอ๊อกซิเจน เพิ่มกระบวนการเมดตาบอริซึ่ม

ทำให้ร่างกายเกิดพลัง หนึ่งขึ้นมา เหมือนนักกีฬา ที่แข่งขัน ถ้าเราฝึกบ่อยๆ พลังดังกล่าวก็สามารถเจอกันได้

ความเข้าใจก็คิดว่าตรงนี้ มันเหมือนวิชาเดินรมปรานหรือเปล่า ก็ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่ม เป็นจริงๆ

ตั๊กม๊อ ผู้สร้างวัดเส้าหลิน ได้ใช้เคล็ดการเดิน และกำหนดลมหายใจตรงนี้ ในการสร้างพลังลมปราน

ผมกลับมาเจออ.ชาญ อีกครั้งที่วัดดอนเมือง เนื่องจากตอนที่ ไปลองดี เป็นช่วงที่บังเอิญ และไม่มีเวลา

ที่จะได้แลกเปลี่ยน หลังจากได้ปฏิบัติ แล้วท่านต้องเร่งกลับวัด มาเจอครั้งนี้ก็ได้แลกเปลี่ยน และได้ความรู้เพิ่ม

ว่า ถ้าเราพ้นทุกข็ เวทนาตรงนี้ได้ พยายามนั่งต่อจะเป็นสมาธิที่ดี แต่อย่าไปอวดอ้างว่าเห็นอะไร เจอเฉพาะตนเท่านั้นใครทำได้เท่าใดก็เป็นเรื่องเฉพาะปัจเจก

ผมจึงนำเรื่องราวมาฝากเพื่อนๆชาวบลอค สำหรับคนที่เคยนั่ง สนใจ หรือต้องการศึกษาความรู้เรื่องนี้

มันเป็นวิทยาศาสตร์ และธรรมชาติ ส่วนเรื่องฟันมือ ผมก็สัมผัสมาแล้ว แต่เจ็บ เรื่องนี้ไม่ลบหลู่




ประวัติพระอาจารย์ชาญ ชาโน สำนักสงค์ป่ากลางบุญ




ลพ.ชาญ ชาโน พระผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี แ่ก่บันดาศิษย์ทั้งหลายไม่เลือกชั้น วรรณะแต่อย่างใด ท่านเป็นพระที่อยู่ป่า พำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์ป่ากลางบุญเพียงรูปเดียว....ท่านได้ค้นพบกฏเกณฑ์ธรรมชาติ คือวิชาคลี่คลายกรรมทางจิต ท่านบอกว่า ..."ธรรมะคือกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ วัตถุมงคลไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่ากรรม"....
ลพ.จำพรรษาอยู่ที่ สำนักสงฆ์ป่ากลางบุญ ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัด นครสวรรค์
ประวัติ
หลวงพ่อชาญ ชาโน เกิดเมื่อวันอังคาร เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2495 ปีมะโรง ณ บ้านบางรายใต้ อ.โพทะเล จ.พิจิตร นามสกุลเดิม"โตนุ่ม" เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คน ของคุณพ่อเฉลย และคุณแม่แหยม โตนุ่ม เมื่ออายุได้ 8 ขวบ โยมพ่อได้นำไปไว้กับหลวงปู่เคลือบ วัดดงเสือเหลือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นองค์เดียวกับวัดหนองกระดี่ จ.อุทัยธานี เนื่องจากทางบ้านมีกรณีพิพาทกับเพื่อนบ้านเรื่องการถือครองที่ดิน และโยมพ่อก็ได้รับการรดน้ำมนต์จากหลวงปู่เคลือบ จึงรอดพ้นจากภยันตรายจากกรณีดังกล่าวได้
ครั้งแรก หลวงพ่อชาญชาโนท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาฝ่ายมหานิกาย ณ วัดสุวรรณาราม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมา หลวงพ่อชาญ ชาโน ได้เข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมยุต ณ วัดบวรนิเวศน์วิหาร แขวง และแขต พระนคร กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ปัจจุบัน เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระมหารัชมงคลดิลก สมศักดิ์ในขณะนั้นเป็นพระเทพกวี เป็นพระอนุสาสนาจารย์ หลังอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อชาญ ชาโน ได้เฝ้าถวายการรับใช้พระอุปัชฌาย์อยู่ระยะหนึ่งก็ได้ทูลลาองค์พระอปัชฌาย์ออกปลีกวิเวกแสวงหาแนวทางปฏิบัติ เพื่้อการหลุดรอดวัฏสงสารตามอุปนิสัยดั้งเดิมของท่าน องค์สมเด็จพระอุปัชฌาย์ก็ทรงยินดีและอนุโมทนา ทรงอนุฐาติให้ตามความประสงค์ของหลวงพ่อชาญ จากนั้นท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆที่เห็นสมควรเพื่อปฏิบัติธรรม
ลพ.ชาญ ชาโนเมื่อสมัยท่านยังเป็นเด็กนั้น ท่านก็เป็นอยู้แถวๆจังหวัดนครสวรรค์กับโยมบิดาของท่าน และต่อมาโยมบิดาของท่านได้นำตัวท่านไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์พระเกจิอาจารย์ดังรูปหนึ่งก็คือ หลวงปู่เคลือบวาจาสิทธิ์ แห่งวัดหน่องกระดี่ จังหวัดอุทัยธานี และแห่งวัดดงเสือเหลือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นองค์เดียวกัน
หลวงปู่เคลือบนั้น เท่าที่ทราบจากหลวงพ่อชาญ ชาโน ท่านบอกว่าเป็นพระที่เก่งมากทั้งทางกรรมฐาน และหยั้งรู้ดินฟ้าและมีอาคมแก่กล้ามาก แม้แต่ลพ.เคลือบเดินผ่านสายฝนที่โปรยลงมา อย่างหนังก็ไม่ทำให้จีวรของท่านเปียกฝนแต่ประการใด ไม่เพียงแต่เท่านี้หลวงปู่เคลือบยังมีวาจาศักดิ์สิทธิ์เอามากๆจะเห็นได้จากผู้คนที่เคารพเลื่อมใสในหลวงปู่เคลืบย่อมจะรู้กกิตติศัพท์ของท่านดี ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลังจะเห็นได้จากผู้คนที่บนบานศาลกล่้าวหลวงปู่เคลือบปีละ 1 ครั้ง คือวันสงกรานต์ในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี โดยจะแก้บนด้วยเหล้าขาว 40 ดีกรีจำนวน 10 ขวดพร้อมมะขามเปียกและเกลือเม็ด จำนวนหนึ่งตลอดมา
ตอนเด็ก หลวงพ่อชาญท่านเอาไว้จุก ลพ.เคลือบท่านเรียกไอ้จุก วันหนึ่งขณะนั้นหลวงพ่อชาญอายุประมาณแปดขวบ หลวงพ่อเคลือบได้พูดกับหลวงพ่อชาญว่า ไอ้จุก ถ้าเองเห็นนางฟ้าก็นั้งสมาธิบ่อยๆนะลูก เมื่อท่านได้ฟังหลวงปู่เคลือบได้พูดเช่นนั้นท่านก็ลองนั้งสมาธิดูและท่านก็ได้นั่งเรื่อยๆมาตอลด และท่านก็เพียรนั่งทุกวันเมื่อถึงเวลาค่ำ เพราะอยากดูนางฟ้า และสิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยก็คือหลวงปู่เคลือบได้สอนวิชาอาคมให้กับท่านและสอนให้ทุกวิชาซึ่งหลวงพ่อชาญ ก็ได้เรียนและจดจำได้อย่างแม่นยำจนถึงปัจจุบันนี้และอยู่มาวันหนึ่งลพ.เคลือบได้พุูดกับหลวงพ่อชาญว่า ไอ้จุก ถ้าเองบวชแล้วมาสอนธรรมะแถวนี้บ้างนะ หลวงพ่อเคลือบท่านพูดเหมือนท่านจะทราบร่วงหน้าว่าหลวงพ่อชาญ นั้นจะได้บวชเป็นพระอย่างแน่นอน และต่อจากนั้นมาหลวงพ่อก็ได้ถามลพ.เคลือบว่าจะได้บวชเมื่อไหรล่ะ หลวงพ่อเคลือบได้ยินดังนั้นก็บอกว่า เองยังบวชไม่ได้หรอกเองต้องใช้กรรมก่อน นะลูกอยู่มาอีกวันหนึ่งหลวงปู่ได้พูดว่า เอยไอ้จุกเตรียมตัวไว้นะพ่อเองจะมารับกลับแล้วนะ...แล้ววันรุ่งขึ้นพ่อก็มารับท่านกลับจริงๆแต่ท่านก็ได้นึกถึงคำพูดของหลวงปู่เคลือบในเรื่องของการนั้งสมาธิมาโดยตลอด โดยไม่ได้ทอดทิ้งเลย จนกระทั้งเติบใหญ่เป็นหนุ่มก็อยังไม่ละเลยการปฏิบัตินั่งสมาธิมาโดยตลอด




ข้อความ : โดยท่านได้ถือศีลกินเจเลื่อยมาและบางครั้งท่านก็ออกเดินธุดงค์ตามแนวชายแดนบ้าง ตามป่าช้าบ้างแล้วแต่โอกาศจะอำนวยให้ไปตามถ้ำ ตามภูเขาลำเนาไพร ตามชายแดน ท่านเองก็ต้องผจญกับภัยต่างๆมากมาย ต่อมาวันหนึ่งท่านได้มีวาสนาพบกับเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ อาคมขลัง และขมังเวทย์อีกองค์หนึ่งนั้นก็คือ "หลวงพ่อผล จันทโน" แห่งวัดสวนขวัญ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ลพ.ผลองค์นี้ท่านเป็นพระปฏิบัติที่มีจิตแก่กล้ามาก และมีอาคมเข้มขลังเป็นอย่างยิ่งอีกองค์หนึ่ง ตามประวัตินั้นท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเก็บ และ หลวงพ่อ อ่อง ซึ่งสมัยก่อนนั้นคนรู้จักหลวงพ่อสององค์นี้เป็นอย่างดี ว่าท่านเป็นหลานหลวงปู่ศุข แห่งวัดป่ากคลองมะขามเฒ่าซึ่งหลวงพ่ออ่องท่านจะเก่งในทางเรื่องผูกหุ่นพยนต์ และมีดหมอ ส่วนหลวงพ่อผลนั้นท่านจะเก่งกาจในด้านอาคมเข้มขลังเป็นอย่างยิ่งและยังมีกสิณที่ยอดเยี่ยม กล่าวคือ เมื่อครั้งที่หลวงพ่อชาญ ได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อผลนั้นท่านได้พบเห็นมากับตาตัวเองเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก คือว่าเมือหลวงพ่อได้หยิบกาน้ำมาให้หลวงปู่ท่านบอกว่าน้ำไม่ร้อนจะเอาไปต้มให้แต่ว่าลุง ผิว ซึ่งเป็นคนปรนนิบัติหลวงพ่อผลได้ยินแกก็ร้องบอกว่า"โอ๊ย"ไม่ต้อง...วางไว้เฉยๆเดียวน้ำร้อนเอง (น้ำในกา)หลวงพ่อชาญท่านได้ยินเช่นนั้นท่านก็วางกาไว้เฉยๆและท่านได้เห็นลพ.ผลเอามือแตะกาน้ำไม่กี่ครั้ง และไม่กี่นาทีน้ำก็ร้อนขึ้นมาทันที นี้คือสิ่งที่ลพ.ชาญได้พบเห็นมาดวยตาตัวเอง และวันต่อมาลพ.ผล และ ลพ.ชาญ ได้สนทนากันอยู่นาน แล้ว ลพ.ผลก็ได้พูดขึ้นมาว่า ชาญ เอ้ย มึงมีวาสนาร่วมกันกับกูนะลูก ลพ.ชาญได้ยินดังนั้นก็ถามว่ามีวาสนาอะไรหรือครับหลวงพ่อ เอ้า ดูสิ เนี่ยกูเป็นอะไรเล่า ก็กูเป็นพระ ก็ได้แต่ทำให้ลพ.ชาญ ได้ยิ้มๆไม่ได้คิดอะไรมาก และต่อมาหลวงพ่อผลได้พูดกับหลวงพ่อชาญ ว่า ชาญ เอ่ยมึงเป็นคนดีนะลูก จากวันนี้แล้วมึงไม่ได้เจอกูอีกแล้วนะ
คำพูดหลวงพ่อผลนั้นเสมือนหนึ่งท่านได้รู้ล่างหน้า คงไม่ได้พลกับลูกศิษย์อีกแน่นอนและก็เป็นจริงตังว่า พอลพ.ชาญลากลับในวันนั้นลพ.ผล ก็สั้งไว้ว่ามึงขับรถไปอย่าหยุดเดียวฝนก็จะตามตูดมึงไปเลื่อยๆนะ อย่าหยุด หลวงพ่อชาญก็ได้พบอีกครั้งหนึ่งว่าฝนตกตามท้ายรถของท่านไปไม่ถึงสองวา แต่ก็ไม่โดนตัวท่านเลยจนถึงบ้าน และท่านก็ได้กลับไปหาลพ.ผลอีกครั้ง ปรากฏว่าท่านได้มรณภาพแล้วซึ่งเป็นไปตามที่ท่านพูดไว้วันนั้นว่าจากกันครั้งนี้จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะลูก นี้ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่หลวงพ่อชาญ เคารพบูชามากเพราะได้เรียนวิชาอาคมมาจนหมดไว้ว่าจะเป็นเรื่องคนกระพันชาตรีซึ่งหลวงพ่อผลก็สุดยอดเช่นกัน ต่อมาลพ.ชาญ ท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปเลื่อยๆ ตอนนั้นยังเป็นคฤหัสถ์อยู่ ท่านเดินป่าฝ่าดงไปทางแถว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ก็ได้พบกับ ลพ.คง วัตตมโล แห่งวัดเขาสมโพชน์ และท่านทั้งสองได้สนทนาธรรมกัน ลพ.คงท่านได้พูดกับหลวงพ่อชาญว่า ชาญ เอ๊ย มึงมีวาสนาร่วมสกาวพัสต์ เดียวกันนะ และท่านก็บอกกับลพ.ชาญว่า คนเราตายกันเป็นหมู่คณะ เป็นเปรตกันเยอะ มึงเอาคำภาวนา "พอง" "ยุบ" ไปให้นะ และลพ.ชาญ ก็ได้กราบ นมัสการลาหลวงพ่อคงกลับมาทำงานตามปกติ ดังนั้นอาจารย์ท่านทั้งสามรูปคือ ลพ.เคลือบ...ลพ.ผล ...ลพ.คง ร้วนเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้า และเป็นผู้หยั้งรู้รวงหน้าถึงอนาคต ของหลวงพ่อชาญ เป็นอย่างดี ในเรื่องของการบวชเป็นพระของท่าน ลพ.ได้บอกว่าอาจารย์ที่ท่านได้ร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆมานั้นมีทั้งหมด 54 อาจารย์

ครูบาอาจารย์ ลพ.ชาญ ชาโน
1.หลวงปู่เคลือบ เป็นคนมอญสักเงี้ยวครึ่งท่อนมีโรคประจำตัว คือหืดหอบ และริดสีดวง ชอบอมเม็ดมะขามทางแก้มซ้าย เดิมอยู่ที่วัดหนองหญ้านาง ถูกชาวบ้านแถวนั้นขับไล่ จึงได้ไปอยุ่ที่วัดดงเสือเหลือง จ.พิจิตร และกลับไปสร้างหอประชุมที่วัดหนองกะดี่ จ.อุทัยธานี และกลับไปอยู่ที่วัดดงเสือเหลือง ทุดท้ายได้มรณะภาพที่วัดแห่งนี้




ข้อความ : รูปภาพที่ลพ.ไปตัดพระเคราะห์ที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ทหาร......







ข้อความ : รูปภาพที่ลพ.ไปตัดพระเคราะห์ที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ทหาร......






ข้อความ : รูปภาพที่ลพ.ไปตัดพระเคราะห์ที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ทหาร



ข้อความ : รูปภาพที่ลพ.ไปตัดพระเคราะห์ที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ทหาร......



ข้อความ : ประสบการณ์วัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ ชาโนครับ.................





ข้อความ : กระสุนผ่านกางเกงยีนขาดเป็นรูแต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปทำอันตรายถึงชีวิตได้...โดนยินโดย .38 หัวระเบิดแปดนัดแต่ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตเลย.........เป็นเพียงรอยจุดใหม้เล็กน้อยเท่านั้น.................



ข้อความ : มีเพียงนัดแรกที่เข้าไปฝังใต้เข็มขัดเท่านั้น...เป็นรอยใหม้สวนนัดอื่นเป็นแต่เพียงรอยใหม้เท่านั้นซื่งโดนยิงถึงแปดนัดด้วย .38 หัวระเบิด....ไม่สามารถทำอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลย.....


คลี่คลายกรรมวิปัสนาตัดพระเคราะห์(ธรรมะปฏิบัติพระอรัญญวาสี)

โดย พระอาจารย์ชาญ ชาโน

สำนักสงฆ์วัดป่ากลางบุญ เลขที่ 17 หมู่ 5 ต.เขาทอง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ (ตรงข้ามการประปาภูมิภาคเขาทอง)

พระอาจารย์ชาญ ชาโน

- เป็นศิษย์หลวงพอ่เงิน วัดบางคลาน ,หลวงพ่อเคลือบ ฯลฯ

- พระเกจิ ร่วมปลุกเสกหลายรุ่นหลายที่ ติดตาประทับใจ คือที่วัดบางคลานหลวงพ่อเงิน ปี 45 เสกเสร็จ... แจก แล้ว สับ ฟัน เฉือน ให้กับลูกศิษย์ที่รับวัตถุมงคล

- แจกวัตถุมงคลให้กับทหาร 3 จว.ภาคใต้(หนึ่งเดียวเท่านั้น)

- ออกทีวีหลายช่องหลายรายการ เช่น ช่อง 7 ช่อง 9 ฯลฯ

**การตัดพระเคราะห์ไม่ได้ลองของหรือแสดงคุณวิเศษแต่ประการใด ทำตามเรียนครูอาจารย์มา หมายถึงเหตุจะเกิดมันต้องเกิด เมื่อเกิดแล้วหนัก เป็นเบา เบาเป็นหาย เป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคล**



ติดต่อสอบถามได้ที่ 08-6050-4387 คุณสุธามาศ



ผู้ฝากข่าว ภานุวัฒน์ 08-9959-8411....ลูกศิษย์พระอาจารย์ชาญ ชาโน


เรียนถามลูกศิษย์

มีหลายคนเป็นศิษย์หลวงพ่อชาญ ชาโน ผมสงสัยว่า ท่านต้องการสอน หรือหลักจริงๆ ที่ท่านได้สอนคืออะไร กราบเรียนถาม...

1. สอนอะไร 2. สอนเพื่ออะไร 3. สอนแล้วได้อะไร 4. สอนแล้วใช้ยังไง 5. สอนไปใช้กับอะไร

6. จุดจบคืออะไร


กราบเรียน ผู้อ่านกระทู้

ผมเป็นหนึ่งในศิษย์หลวงพ่อชาญ ชาโน การปฏิบัติต้องรุ้ที่มาที่ไป และผมเชื่อว่าทุกคนมีธาตุรู้ด้วยกันทั้งสิ้น ผมเข้าใจว่ามีหลายคนเป็นศิษย์ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่าศิษย์ จะเก่งกว่า หรือได้รับอะไรมากกว่า ต้องกราบเรียน และตอบข้อซักถาม โดยสังเขป 1. สอนอะไร สอนหลักธรรมชาติ 2. สอนเพื่อ ให้รู้จักเอาตัวรอด

3. ได้อะไร ได้วิชา ความรู้ 4. ใช้ ได้ทุกขณะจิต

5. ใช้กับ ตัวเอง 6. สะอาด คือจบ

--- การปฏิบัติเรียนรู้ ไม่ได้หมายถึงว่า ทุกคนต้องบรรลุ และได้สิ่งที่ต้องการเสมอไป หากผู้ใดสนใจ กรุณาถามตนเองก่อนว่า...พร้อมหรือยังกับการปฏิบัติ การอ่านหนังสือ ทำให้คนฉลาดก็จริง การเดินทางไปทั่วทิศ ทำให้คนเรียนรู้มากขึ้นก็ใช่ แต่...การลงมือปฏิบัติ ย่อมดีว่าทุกสิ่ง หากท่านพร้อมขอแนะนำปิดตำรา หยุดเดินทาง แล้วลงมือปฏิบัติ

---- ขออนุโมทนา และหวังว่าผู้ใดสนใจ ในทางธรรมเดียวกันจะโคจรได้พบเจอกัน

ประสิทธิ์

ขอรบกวนถาม

ทราบว่าจะมีการทำพิธีไหว้ครูในวันที่ 7 พค.ที่จะถึงนี้ เคยตั้งใจจะไปร่วมพิธีคลี่คลายกรรม เพราะศรัทธาในหลวงพ่อ เมื่อเดือนมี.ค.แต่พลาด (รถเต็ม จองไม่ทัน) จึงอยากทราบว่าในวันไหว้ครูนี้ ดิฉันที่ยังไม่ได้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ จะไปร่วมพิธีได้ไหมคะ (ควรหรือไม่)แล้วในพิธีมีอะไรบ้าง เริ่มพิธี กี่โมง จนถึงตอนไหน (ไปจาก กท.) ตั้งใจจะเอารถไปเอง ในวันนั้นจะมีพิธีคลี่คลายกรรมด้วยรึป่าว ต้องเตรียมตัว แต่งกายอย่างไรคะ

ขอเชิญร่วมงานพิธีไหว้ครู (พระอาจารย์ชาญ ชาโน)

ในวันที่ 7 พ.ค. 2552 ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป

...แต่งตัวตามสบายครับ แต่ขอความกรุณาอย่าโป๊ครับ.. หนึ่งปี มีครั้งเดียวครับ

ไม่มีความคิดเห็น: